ลักษณะใบหน้าด้านข้างดูนูนออก ใบหน้าอาจดูสั้นกว่าปรกติโดยมีคางที่มีขนาดเล็กชัดเจนร่วมกับการมีร่องลึกระหว่างคางกับริมฝีปากล่าง สาเหตุมักเกิดจากขากรรไกรล่างมีขนาดเล็ก ทำให้ฟันหน้าล่างสบลึกอยู่ใต้ฟันบน
3. ฟันยื่น ฟันเหยิน (Maxillary excess, Gummy smile)
ลักษณะฟันยื่นหรือเหยินหรือเห็นเหงือกมากกว่าปรกติโดยเฉพาะเวลายิ้มเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและมักเป็นปัญหาทางด้านความสวยงามมากกว่าการสบฟันที่ผิดปรกติ ผู้ป่วยมักขาดความมั่นใจและไม่กล้ายิ้มเต็มที่หรืออาจยิ้มไม่เป็นธรรมชาติ เนื่องจากเวลายิ้มมักจะเห็นเหงือกบริเวณฟันหน้าบนมากทำให้แลดูไม่สวยงามในผู้ป่วยส่วนใหญ่ การสบฟันพบได้หลายรูปแบบอาจจะผิดปรกติหรือเป็นปรกติก็ได้ สาเหตุเกิดจากการที่กระดูกขากรรไกรบนมีขนาดใหญ่กว่าปรกติในแนวตั้งหรือมีตำแหน่งต่ำกว่าปรกติ ลักษณะใบหน้าด้านข้างมักนูนออกร่วมกับใบหน้าช่วงล่างยาวขึ้น ขณะปิดปากจะพบว่าริมฝีปากจะเม้มตึงกว่าปรกติ
4. ขากรรไกรไม่สมมาตร (Jaw asymmetry)
ไม่สมมาตรในแนวตั้ง (Vertical asymmetry)
ลักษณะใบหน้าสองด้านมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดในแนวดิ่ง ริมฝีปากมีการเอียงตะแคงด้านใดด้านหนึ่งทั้งในขณะปรกติหรือเวลายิ้มเช่นเดียวกับแนวสบฟันที่เอียงตามกันไป พบว่าระดับมุมคางสองด้านก็มีความแตกต่างอย่างชัดเจนในแนวดิ่งทำให้ใบหน้าดูเหมือนบิดไปทางด้านหนึ่งการสบฟันที่ผิดปรกติพบได้หลายรูปแบบ โดยพบการสบฟันคร่อมด้านหนึ่งในขณะที่อีกด้านอาจปรกติ สาเหตุมักเกิดจากการเจริญของกระดูกขากรรไกรถูกยับยั้งหรือกระตุ้นด้านใดด้านหนึ่ง เช่นการบาดเจ็บระหว่างการเจริญเติบโต
ไม่สมมาตรในแนวระดับ (Horizontal asymmetry)
ลักษณะใบหน้าจะพบว่าส่วนขากรรไกรล่างด้านหนึ่งจะยาวในแนวนอนมากกว่าอีกด้านหนึ่ง ทำให้ลูกคางเบี้ยวมายังด้านที่สั้นกว่า สาเหตุเกิดจากการเจริญเติบโตของขากรรไกรล่างด้านหนึ่งถูกกระตุ้น ซึ่งสาเหตุของการกระตุ้นนี้ยังเป็นที่ทราบแน่ชัด การสบฟันจะพบมีการสบฟันคร่อมด้านหนึ่ง ฟันในขากรรไกรอาจมีลักษณะปรกติ ลักษณะโครงสร้างใบหน้าด้านข้างมักมีลักษณะโค้งเว้า